ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในออสเตรเลีย ประกาศขยายเวลามาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 ในนครซิดนีย์ ออกไปอีก 1 เดือน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในประเทศออสเตรเลีย ออกคำสั่งขยายเวลาล็อกดาวน์นครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง
นครซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่นับ 5 ล้านคน มากที่สุดในออสเตรเลีย ได้พบผู้ติดเชื้อโควิดกว่า 2,500 รายแล้วในปีนี้ และเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 177 ราย จนถือเป็นสถิติการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันเดียวมากที่สุดของออสเตรเลีย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หลังจากหนึ่งวันก่อนหน้า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 172 ราย
แกลดิส เบเรจิเคลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 ในนครซิดนีย์ ตามแผนกำหนดเดิมที่วางไว้ว่าจะยกเลิกล็อกดาวน์ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ค.นี้ นอกจากนั้น มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังได้ประกาศขยายมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม รวมทั้งการกำหนดให้ประชาชนในนครซิดนีย์สามารถออกไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นและอาหารในรัศมี 10 กิโลเมตรจากที่พักอาศัยอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในรัฐอื่นๆ ของออสเตรเลียเริ่มทุเลาลง จนทำให้สามารถคลายล็อกดาวน์ในรัฐวิกตอเรีย และรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้แล้ว หลังจากสามารถควบคุมผู้ติดเชื้อให้ลดลงจนมีจำนวนไม่มากนัก
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา มีชาวออสเตรเลียในนครซิดนีย์และเมืองใหญ่หลายเมืองได้รวมตัวออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 เนื่องจากเห็นว่าภาครัฐได้ออกมาตรการควบคุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงเดือนที่ผ่านมา รวมทั้งผู้ชุมนุมประท้วงยังมีความเห็นว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชน เพราะจนถึงขณะนี้ มีชาวออสเตรเลียได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส เพียงแค่ 11%เท่านั้น